วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

พระอาจารย์กุ่ย เกจิดังวัดโปรยฝน พร้อมผกก.สภ.หนองเสือ มอบถุงยังชีพ มอบทาน มอบธรรม ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงตามโครงการ(ปักกลด)

  


พระอาจารย์กุ่ย เกจิดังวัดโปรยฝน พร้อมผกก.สภ.หนองเสือ มอบถุงยังชีพ มอบทาน มอบธรรม ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงตามโครงการ(ปักกลด)

       

ปทุมธานี : วันที่ 25 ..64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูสมุห์อำนวยโชติปัญโญ หรือ พระอาจารย์กุ่ย เกจิดัง เจ้าอาวาสวัดโปรยฝน คลอง11 .หนองเสือ .ปทุมธานีพร้อมด้วย ...ธีรยุทธ เสรีนนท์ชัยผกก.สภ.หนองเสือ และตำรวจมวลชนสัมพันธ์  ..จำเรียง กำจัดภัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ในการออกตรวจเยี่ยมช่วยเหลือประชาชน ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง พร้อมมอบถุงยังชีพ แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ในพื้นที่ หมู่ 2 .บึงบา .หนองเสือ .ปทุมธานี ตามโครงการประชารัฐร่วมใจต้านภัยยาเสพติด(ปักกลด)ของสภ.หนองเสือ นโยบายของ ผบช..1 และ มอบทาน มอบธรรมโครงการของคณะสงฆ์ เพื่อให้การช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ในการลงพื้นที่เยี่ยมประชาชน มอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย และปัจจัยจำนวนหนึ่ง เพื่อได้ใช้สิ่งของเหล่านี้ในการดำรงค์ชีวิตและใช้ป้องกันไวรัสโควิด-19 ด้วย



    

พระอาจารย์กุ่ย กล่าวว่า อาตมาได้รับนโยบายมาจาก คณะสงฆ์ ให้ดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ลำบาก ผู้ตกทุกข์ได้ยากผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ ไม่ทอดทิ้งกัน ในยามทุกข์ ซึ่งอาตมาก็ได้เดินทางลงพื้นที่ไปเยี่ยมญาติโยมถึงบ้าน พร้อม มอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย และปัจจัยจำนวนหนึ่ง เพื่อให้กำลังใจดูแลญาติโยมที่เดือดร้อนกันไป จะได้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต ไม่ท้อแท้ ไม่หดหู่ และมีกำลังใจที่เข้มแข็งพร้อมสู้ต่อไป

    

...ธีรยุทธ เสรีนนท์ชัย ผกก.สภ.หนองเสือ กล่าวว่า สำหรับ โครงการประชารัฐร่วมใจต้านภัยยาเสพติดหรือ(ปักกลด)ของ สภ.หนองเสือ ตามนโยบายของ ผบช..1 ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่คอยสอดส่องดูแล ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ตกทุกข์ ได้ยาก และผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้หรือลำบาก โดยมอบถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย พร้อมแนะนำดูแลให้ประชาชนและเยาวชน บุตรหลานห่างไกลยาเสพติด จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเข้าถึง ใกล้ชิด ในการประชาสัมพันธ์ของตำรวจมวลชน ถึงบ้านพักหมู่บ้านและชุมชน เพื่อพบปะพูดคุย รับเรื่องราวร้องทุกข์ และให้กำลังใจ ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน เยาวชนคิดดี ทำดีและเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณค่าต่อสังคมและประเทศต่อไป


ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ 




ประธานบริหารบริษัทในเครือ TRM เปลี่ยนวิกฤตโควิดให้เป็นโอกาสสร้างยอดขายระยะยาวเพิ่มได้แบบยั่งยืน

  


ประธานบริหารบริษัทในเครือ TRM เปลี่ยนวิกฤตโควิดให้เป็นโอกาสสร้างยอดขายระยะยาวเพิ่มได้แบบยั่งยืน


วันที่ 1 มี..64 ที่โรงแรมสวนสามพราน .เพชรเกษม .สามพราน .นครปฐม คุณสุชัย พงษ์เพียรชอบ ประธานบริหารบริษัทในเครือ TRM ได้จัดสัมมนาสมาชิกขายตรงในเครือบริษัท เพื่ออบรมและเสริมสร้างความรู้และกระตุ้นยอดขายในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีสมาชิกขายตรงในเครือบริษัทเข้าร่วมการสัมมนา 2 วันในวันที่27-28 ..ที่ผ่านมาประมาณ 300 คน

คุณสุชัย พงษ์เพียรชอบ ประธานบริหารบริษัทในเครือ TRM กล่าวเปิดเผยว่า  ทางบริษัทได้จำหน่าย และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเช่นการบำรุงและดูแลพืชและผลิตภัณฑ์เสริมเพื่อสุขภาพที่ผ่านมายอดขายก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี แต่ช่วงนี้เจอสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ และทั่วโลกประชาชนทุกสายอาชีพเดือดร้อนกันทั่วหน้า วิกฤตโควิด-19 สร้างผลกระทบอย่างหนักกับแรงงานถูกเลิกจ้างสูงถึง 8.4 ล้านคน ในทุกๆ สายงาน อาทิ ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักศึกษาจบใหม่กว่า 5.2 แสนคน ที่จบมาแล้วหางานทำไม่ได้ เพราะทุกๆ บริษัทต่างรัดเข็มขัดเพื่อความอยู่รอดทั้งลดต้นทุนการผลิตการลดแรงงาน แต่ทางบริษัทของเรายังไปได้เพื่อเป็นการไม่ประมาณจึงได้มีการจัดสัมมนาสมาชิกขายตรงในเครือบริษัทขึ้นเพื่ออบรมและเสริมสร้างความรู้และกระตุ้นยอดขายให้แก่สมาชิก





คุณสุชัย กล่าวต่อว่า การบริหารทีมงานขาย ถือได้ว่าเป็นกระบวนการการบริหารที่สมาชิกผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และการนำไปใช้ให้มีประสิทธิผลอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะว่าจะมีส่วนช่วยในการผลักดันการขายที่อยู่ในการควบคุม ให้สำเร็จบรรลุเป้าหมายได้ ที่จำเป็นจะต้องมีการวางแผน มีการวางระบบอย่างเป็นขั้นตอน รวมถึงการวิเคราะห์ คาดการณ์ ทางด้านการขาย การเตรียมและจูงใจทีมงานกระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้า การควบคุม ติดตาม และการประเมินผลตามสภาพการณ์ หรือผลงานที่เกิดขึ้นจริงและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความแน่นอนหรือให้เกิดความใกล้เคียงกับการบรรลุเป้าหมายให้ได้มากที่สุดซึ่งสมาชิกขายตรงจะได้เรียนรู้และเสริมทักษะด้านการขายทั้งระบบให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

คุณสุชัย กล่าวต่ออีกว่า วัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาสมาชิกขายตรงในเครือบริษัทในครั้งนี้ก็เพื่อผู้ที่เข้าสัมมนามีความรู้ความเข้าใจในด้านการบริหารทีมงานขายทั้งระบบมีทักษะและสามารถประยุกต์ใช้ในการทำงาน มีความชำนาญซึ่งเกิดจากการปฏิบัติและฝึกฝนพัฒนาประสิทธิภาพการขายของทีมงานเพื่อกระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้า รู้ถึงกระบวนการทางการตลาดประกอบเป็นภาพใหญ่ เพื่อผสมผสานกับทางการขายให้สัมฤทธิ์ผลบรรลุเป้าหมายในการบริหารทีมงานขาย ภายใต้สภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เข้าใจถึงเทคนิคการนำเสนอเพื่อเข้าถึงคำว่ามืออาชีพมีทัศนคติเชิงบวกมีแผนการรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มเส้นทางในการหาลูกค้าใหม่ได้รู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและเจรจาโน้มน้าวลูกค้าได้อย่างชาญฉลาดและสามารถสร้างยอดขายระยะยาวเพิ่มได้แบบยั่งยืน





วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ผบช.ภ.1” แถลงข่าวจับกุม 2 ผู้ต้องหา ชิงทองห้างดังย่านนนทบุรี พร้อมด้วย นายชัยรัตน์ จำนงค์การ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา กต.ตร.ภาค1 พร้อมมอบรางวัลนำจับ เป็นขวัญและกำลังใจ

  

ผบช..1” แถลงข่าวจับกุม 2 ผู้ต้องหา ชิงทองห้างดังย่านนนทบุรี พร้อมด้วย นายชัยรัตน์ จำนงค์การ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา กต.ตร.ภาคพร้อมมอบรางวัลนำจับ เป็นขวัญและกำลังใจ

วันนี้ (วันเสาร์ที่ 27 ..64) เวลา 09.30 . •พล...อำพล บัวรับพร  ผบช..1 พร้อมด้วย พล...สุรพล เปรมบุตรรอง ผบช..1, พล...ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก..จว.นนทบุรี...โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผบก..จว.นนทบุรีนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และ ดร.ชัยรัตน์ จำนงค์การ ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา กต.ตร..1 ร่วมแถลงข่าวจับกุม ผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่ 

1.นายทวีวงศ์ หรือ ตูน หอมเนียม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/43 ถนนสวรรคโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิตกรุงเทพฯ ผู้ถูกจับที่ 1

2.นายคันศร หรือ โต๊ด วสุหิรัญ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/4 หมู่ 3 .สวนกล้วย .บ้านโป่ง จว.ราชบุรี ผู้ถูกจับที่ 2 พร้อมด้วยของกลาง

1. สร้อยข้อมือทองคำ หนัก 3 บาท จำนวน 18 เส้นกำไลข้อมือทองคำ หนัก 3 บาท จำนวน 2 วง , สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 19 เส้น 

2. กำไลข้อมือทองคำ หนัก 2 บาท จำนวน 4 วงกำไลข้อมือทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 3 วง 

3. กำไลข้อมือทองคำ หนัก 2 สลึง จำนวน 7 วงแหวนทองคำ หนัก 2 สลึง จำนวน 1 วง 

4. สร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 34 เส้นพระเลี่ยมทองสำเร็จรูป จำนวน 13 องค์ 

5. ตะขอทองคำ ไม่ทราบ น้ำหนัก จำนวน 9 ชิ้นเศษทอง ไม่ทราบน้ำหนัก จำนวน 7 ชิ้นเงินสด จำนวน 15,000 บาท











6. อาวุธปืนพกสั้น แบบรีวอลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 25 นัด 

7. อาวุธปืนพกสั้น แบบกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อ กล็อก 19 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนขนาด 9 มมจำนวน 15 นัด

8. อาวุธปืนพกสั้น แบบกึ่งออโตเมติก ยี่ห้อ กล็อก 26 จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนขนาด 9 มมจำนวน 20 นัด 

9. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น เอ็นแม็กซ์ 155 สีขาว คันหมายเลขทะเบียน 5 กด 1484 กรุงเทพมหานคร (คันที่คนร้ายขับขี่ไปก่อเหตุและหลบหนี

10. ป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ หมายเลข รฉย-553 กรุงเทพฯ (ผู้ถูกจับทั้งสองใช้ติดอำพรางรถจักรยานยนต์คันที่คนร้ายขับขี่ไปก่อเหตุและหลบหนี

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และไม่มีเหตุอันสมควร” จึงนำตัวพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

  •  ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขารัตนาธิเบศร์ .บางกระสอ .เมือง จว.นนทบุรี









วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

สาธารณสุขร้อยเอ็ด จัดอบรมชี้แจงแนวทางการขออนุญาตปลูกกัญชง กัญชา เพื่อเศรษฐกิจสุขภาพ

  


สาธารณสุขร้อยเอ็ด จัดอบรมชี้แจงแนวทางการขออนุญาตปลูกกัญชง กัญชา เพื่อเศรษฐกิจสุขภาพ

       25 กุมภาพันธ์ 2564 นายประวุฒิ ละครราช รองสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการอบรมชี้แจงแนวทางการขออนุญาตปลูกกัญชง กัญชา เพื่อเศรษฐกิจสุขภาพ ณ ห้องประดับฟ้า โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้น โดยมี นายมานิตย์ ทวีหันต์ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข กล่าวรายงาน ตามที่นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุน ให้ใช้ประโยชน์จากพืชกัญชง (Hemp) เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนโดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้าส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ. ศ. 2563 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 มกราคม 2564 ทุกภาคส่วน ทั้ง เกษตรกร ภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปสามารถขออนุญาตปลูกได้ทุกวัตถุประสงค์ ตั้งแต่ การค้า การแพทย์ การศึกษา วิจัย การใช้ตามวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรม หรือผลิตเมล็ดพันธุ์รับรอง ซึ่งสามารถนำส่วนต่างๆของกัญชงไปแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น ช่อดอกนำไปผลิตยา สารสกัดจากกัญชง ใบนำไปผลิตอาหารผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องสำอาง น้ำมันจากเมล็ดกัญชงนำไป ผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ สมุนไพรเครื่องสำอาง สารสกัดจากกัญชงนำไปผลิตเป็นเครื่องดื่ม เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สมุนไพรเป็นต้น กัญชาเป็นพืชมหัศจรรย์อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านานทั้งเป็นยาแผนไทยและสมุนไพรในอาหารเกือบจนวันหนึ่งสหประชาชาติได้จัดให้กัญชาเป็นยาเสพติดจนทำให้คนไทยส่วนหนึ่งมีความรู้สึกไม่ดีต่อกัญชา อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการศึกษาข้อมูลจำนวนมาก กัญชาสามารถนำไปใช้ทางการแพทย์ได้ มีหลายประเทศได้เปิดโอกาสให้นำไปใช้เป็น อาหาร สมุนไพร เครื่องสำอาง กัญชารวมถึงกัญชง จึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจไปทั่วโลก กัญชาของประเทศไทย เป็นกัญชาคุณภาพที่ ให้สาระสำคัญมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆจึงเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยได้เริ่มส่งเสริมกัญชา กัญชงอย่างจริงจังทั้งในทางการแพทย์และทางเศรษฐกิจ การอบรมชี้แจงแนวทางการขออนุญาตปลูกกัญชงกัญชาเพื่อเศรษฐกิจสุขภาพในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้น ที่สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้สนใจในพืชตัวนี้ที่จะได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องรวมถึงได้เสนอแนะแลกเปลี่ยนที่เป็นประโยชน์




 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ดได้ให้การสนับสนุนนโยบายดังกล่าว ทั้งการปลูกกัญชงและกัญชาจึงได้จัดการอบรมชี้แนวทางการขออนุญาตปลูกกัญชงกัญชาซึ่งวันนี้ได้รับเกียรติจาก นางสาวพันไมล์ ชัยเศวตสิริกุล เป็นที่รู้จักในนาม “มาดามกัญชา” นักเกษตรอินทรีย์อิสระได้มาให้ความรู้และเทคนิคการปลูก กัญชา กัญชง เชิงเกษตรอินทรีย์ โดยมีผู้สนใจให้การเข้าร่วมอบรมและแชร์ประสบการณ์กว่า 300 คน ซึ่งกิจกรรมประกอบด้วย การบรรยาย การตอบข้อชักถาม การให้คำแนะนำ การแชร์ประสบการณ์ การขออนุญาตและการรับคำร้องการขออนุญาต มาดามกัญชา ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากจะให้ จ.ร้อยเอ็ด เป็นโมเดลในการปลูกและการขออนุญาตในเรื่อง กัญชง กัญชาและจะมาช่วยดูแลให้คำแนะในโอกาสต่อไป

           ทางด้านสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด คาดหมายว่าผู้เข้าร่วมรับอบรม รวมถึงพี่น้องประชาชน จะสามารถขออนุญาตปลูกกัญชง กัญชา รวมถึงผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป

สุทธิชัย อุปปะ (เต็ม)

บก.ข่าวไทยนิวส์  ภาพ-ข่าว






วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ดร.ชัยรัตน์ - คุณรุจาภา จํานงค์การ ร่วมบริจาคเงินสร้างห้องน้ำ ที่ วัดสีกัน(พุทธสยาม)

  


ดร.ชัยรัตน์ - คุณรุจาภา จํานงค์การ ร่วมบริจาคเงินสร้างห้องน้ำ ที่ วัดสีกัน(พุทธสยาม)


วันที่ 25 ..64 ดร.ชัยรัตน์ - คุณรุจาภา - คุณธนัช จํานงค์การ ประธานบริษัท ที.เอส.จี.อินเตอร์การ์ด พร้อมด้วย,ท่านผอ.ไพศาล - .หญิงปานตา คุนผลิน ,คุณสุรศักดิ์ สทศักดิ์มนตรี ,คุณสมคิด -คุณนวลฉวี ชินสา และคุณอำนาจบุญ -คุณสมพร พิมศร ร่วมกันบริจาคเงินสร้างห้องน้ำจำนวน 10 ห้อง ที่ วัดสีกัน(พุทธสยามถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.