ขอโพสต์เพื่อแสดงเจตนา “ ขอโทษ ” ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

 ขอโพสต์เพื่อแสดงเจตนา “ ขอโทษ ” ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง
    เนื่องจากที่ดิฉัน น.ส.สุรีพร ชูจิตร
ได้ทำการโพสต์ช่วงเดือนสิงหาคม 2562 ได้มีการนำรูปและชื่อของ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัทมิตซูชลบุรี สาขาระยอง ซึ่งทำให้ คุณ จุรีพร ใจมาโม๊ะ รู้สึกเสียหาย จึงได้มีการพูดคุยตกลงกันเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2563 ว่าด้วยให้มีการโพสต์ขอโทษทางเฟสบุ๊คและทามไลน์เป็นระยะเวลา 10 วัน และทางเว็บไซต์ข่าวอีก 9 เว็ปเพื่อเป็นการเตือนว่าอย่าหมิ่นประมาทหรือนำรูปเขาไปลงในทางที่ทำให้เกิดความเสียหายเสื่อมเสียอีก เพราะฉะนั้นดิฉันได้ทำความเข้าใจแล้ว จึงรู้สึกเสียใจต่อการกระทำครั้งนั้น ที่กระทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบไม่ได้ยั้งคิด สุดท้ายนี้ ขอโทษ บริษัท มิตซูชลบุรี สาขาระยองมา ณ.ที่นี้ด้วยที่ได้มีการกล่าวถึงค่ะ
* ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ.โอกาสนี้ ด้วย *

เอไอเอ ประเทศไทย เตรียมความพร้อมรับวิถีชีวิตใหม่ในที่ทำงาน ‘New Normal @ AIA’ เพื่อพนักงานมีสุขอนามัยที่ดี ปลอดภัยจากโควิด-19

เอไอเอ ประเทศไทย เตรียมความพร้อมรับวิถีชีวิตใหม่ในที่ทำงาน ‘New Normal @ AIA’ เพื่อพนักงานมีสุขอนามัยที่ดี ปลอดภัยจากโควิด-19

เอไอเอ ประเทศไทย เตรียมความพร้อมหลังปลดล็อคระลอกใหม่ เพื่อให้พนักงานกว่า 2,000 คนที่ปฏิบัติงานอยู่ ณ อาคารเอไอเอ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ ได้เรียนรู้ถึงวิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่ในที่ทำงาน ผ่านแคมเปญ ‘New Normal @ AIA’ ซึ่งได้รวบรวมรูปแบบการดำเนินชีวิตประจำวันในที่ทำงาน เพื่อให้พนักงานทุกคนมีสุขอนามัยที่ดีตามหลักสาธารณสุข อีกทั้ง ยังเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวพนักงานเอง รวมถึงยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อในอาคาร ให้ทุกคนได้มีสุขภาพที่แข็งแรง และปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ตามคำมั่นสัญญาของเอไอเอ ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’

ทั้งนี้ สำหรับแคมเปญ ‘New Normal @ AIA’ เป็นแคมเปญเฉพาะกิจ ที่มุ่งให้พนักงานของเอไอเอ เข้าใจร่วมกันถึงวิถีชีวิตใหม่ในที่ทำงาน และนำมาปฏิบัติ อาทิ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลและไม่พูดคุยระหว่างโดยสารลิฟต์ สวมใส่หน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่อเข้าประชุม การเว้นระยะห่างในการนั่งรับประทานอาหาร รวมถึงการกินร้อน ใช้ช้อนและภาชนะของตัวเอง เป็นต้น ซึ่งวิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal ต่างๆ เหล่านี้ ล้วนส่งผลดีต่อสุขภาพของทุกคนในสังคม ซึ่งเอไอเอ ประเทศไทย ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังที่ช่วยผลักดันให้สังคมไทยก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ หน้ากากหนุมานของทีมงานอาจารย์อ๊อด ได้รับการยอมรับจากกองทัพบก แล้ว ช่วยลดการนำเข้าได้ปีละ 600 ล้านบาท

ทนายอนันต์ชัย โพสต์ FB ระบุ หน้ากากหนุมานของทีมงานอาจารย์อ๊อด ได้รับการยอมรับจากกองทัพบก แล้ว  ช่วยลดการนำเข้าได้ปีละ 600 ล้านบาท
   
 นายอนันต์ชัย  ไชยเดช ทนายความชื่อดัง  ได้โพสต์ข้อความใน Facebook ส่วนตัว ชี้แจงถึงความคืบหน้าคดีที่ได้ร่วมต่อสู้ กับรศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์  หรืออาจารย์อ๊อด   อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และทีมงานนักวิจัย ที่ร่วมกันคิดค้น หน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร ( หน้ากากหนุมาน ) ซึ่งทีมงานนักวิจัยของอาจารย์อ๊อด เล็งเห็นว่า หน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร ถ้าสามารถผลิตได้ในประเทศไทย จะทำให้เรามีหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหารไม่ต้องนำเข้า ไม่ต้องเปลืองงบประมาณหลายร้อยล้านบาทต่อปี และยังใช้ประโยชน์อื่นอีกมากมาย อันจะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติอย่างยิ่ง ผมจะดีใจและภูมิใจมากหากหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหารนี้ได้รับการผลิตในประเทศลดการนำเข้าโดยเด็ดขาด และสามารถผลิตจำหน่ายส่งออกต่างประเทศได้
     

โดยทีมทนายความและทีมงานนักวิจัยได้เดินหน้าทวงถามความเป็นธรรมและร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่ ในเดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นมา ผม อาจารย์อ๊อด และทีมงานอาจารย์นักวิจัย ทวงถามความเป็นธรรมทั้งฟ้องคดี ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างแสนที่จะลำบาก

  และในที่สุดวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ตนเองก็ได้รับข่าวดีจากอาจารย์อ๊อดและทีมงาน ว่า กระทรวงกลาโหมและกองทัพบก ยอมรับผลงานวิจัยหน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร หรือ “หน้ากากหนุมาน” แล้ว และให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลิตให้กับแพทย์เพื่อป้องกันโรคโควิท-19 จำนวน 20,000 ชุด ลดการนำเข้าปีละ 600 ล้านบาท !
     
ทำให้รู้สึกภูมิใจที่มีส่วนร่วมให้หน้ากากป้องกันสารพิษทางทหาร( หน้ากากหนุมาน ) ของทีมวิจัยอาจารย์อ๊อด เป็นยุทธพันธ์ทางทหาร สามารถผลิตได้ และได้มีการสั่งให้ผลิตเพื่อวงการแพทย์ป้องกันโรคโควิด- 19  เป็นสิ่งที่ คุ้มกับการลงทุนในวิชาชีพทนายความของผมจริง ๆ ไม่เสียชาติเกิดที่ใช้วิชาชีพทนายความช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ โดยเฉพาะกับทีมงานนักวิจัยของอาจารย์อ๊อด

       

ผกก.สน.นางเลิ้ง ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจและครอบครัว พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ข้าราชการตำรวจในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ผกก.สน.นางเลิ้ง ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจและครอบครัว พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ข้าราชการตำรวจในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

วันที่ 27 พ.ค. 63 เวลา16.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.นางเลิ้ง, พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ รอง ผกก.ปฯ, พ.ต.ท.อธิช  ดอนนันชัย  รองผกก.สอบสวน, พ.ต.ท.ณรงค์ชาติ สัจจะไทย รอง ผกก.สอบสวน, พ.ต.ท.สมศักดิ์ ใหม่บุญมี รอง ผกก.สสฯ, พ.ต.ท.ภูวดล อุ่นโพธิ รอง ผกก.จรฯ ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจและครอบครัว พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ข้าราชการตำรวจในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 160 ชุด เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ณ สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้งและอาคารบ้านพักอิสระวัดโสมนัสฯ

ร้อยเอ็ด...มทบ.27 ชุดปฏิบัติการขุนภักดี 27 สานสัมพันธ์ ตะกร้ารำวง กระด้งปันสุข สู่ชุมชน รณรงค์สร้างการรับรู้สู้ภัยโควิด-19 ขานนโยบาย ผู้บัญชาการทหารบก

        ร้อยเอ็ด...มทบ.27  ชุดปฏิบัติการขุนภักดี 27 สานสัมพันธ์ ตะกร้ารำวง กระด้งปันสุข  สู่ชุมชน รณรงค์สร้างการรับรู้สู้ภัยโควิด-19 ขานนโยบาย ผู้บัญชาการทหารบก
       เมื่อวันที่  27 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น  พลตรีธวัชชัย แจ้งประจักษ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 27 มอบให้ ชุดปฏิบัติการขุนภักดี 27 จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์  ตะกร้ารำวง  กระด้งปันสุข  สู่ชุมชน รณรงค์สร้างการรับรู้สู้ภัยโควิด-19 ที่ บ้านดอนงัว ม.4, ม.9  ต.ไพศาล  อ.ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด  โดยมี นายมนตรี  สนองผัน กำนัน ต.ไพศาล ฯ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม. เข้าร่วมกิจกรรม

          พันโท สมบูรณ์ ไชยขาว หัวหน้าชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ท27 กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้  รูปแบบการจัดกิจกรรม โดยนำรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ และประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย หอกระจายข่าวในหมู่บ้าน สร้างความรับรู้ ความเข้าใจ เดินเท้าแจกแผ่นพับ, หน้ากากผ้า,ยาดม, หมาก พลู ให้กับผู้สูงอายุ อีกทั้งยังใช้ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ผสมผสานกิจกรรม " ตะกร้ารำวง  กระด้งปันสุข " เพื่อเข้าถึงจิตใจของประชาชนในพื้นที่  พร้อมให้คำแนะนำการปฏิบัติตนเพื่อการป้องกันจากโรคโควิด-19 ไม่ตื่นตระหนก แต่ตระหนักรักษาตนเอง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) "กินร้อน ช้อนเรา ไม่เข้าใกล้กัน และขยันล้างมือ"

            ทั้งนี้ ได้ให้คำแนะนำ การปฏิบัติตนในห้วงประกาศ พรก.ฉุกเฉิน และมาตรการที่ จังหวัดร้อยเอ็ด ประกาศบังคับใช้   การเสริมสร้างความสามัคคีเพื่อเอาชนะและกำจัดโรคโควิด-19  การรณรงค์กิจกรรมอยู่บ้านอย่างไรให้มีความสุขลดรายจ่ายไปกับกองทัพบก  การประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ประชาชนมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม การมีวินัยต่อตนเอง ตามมาตรการที่ภาครัฐกำหนด "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" และ New Normal วิถีชีวิตใหม่
////
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
อำนวย ระดาบุตร บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด

ร้อยเอ็ด....อบจ.ร้อยเอ็ด มอบหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อส่งต่อประชาชนตำบลนาอุดม อำเภอโพนทอง ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

       ร้อยเอ็ด....อบจ.ร้อยเอ็ด มอบหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อส่งต่อประชาชนตำบลนาอุดม อำเภอโพนทอง ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
         เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ 26 พ.ค.2563 ณ.ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลนาอุดม ตำบลนาอุดม อำเภอโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด นายมังกร  ยนต์ตระกูล นายก  อบจ.นายทรรศยุ  ไชยรัตน์  รองนายก  อบจ.นายทัศนัย  ไวยนิยมพงค์  เรขานายก อบจ. ได้นำหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สเปรย์แอลกอฮอล์มอบให้ผู้นำชุมชนเพื่อส่งต่อไปยังพี่น้องประชาชนป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

         ทั้งนี้ ตำบลนาอุดม  เป็นตำบลที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอโพนทอง ประกอบไปด้วย 17 หมู่บ้าน  เขตพื้นที่ทิศเหนือ ติดกับ ต.คำนาดี อ.โพนทอง และ ต.คำพอง อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ดทิศใต้ ติดกับ ต.อุ่มเม่า อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ดทิศตะวันออก ติดกับ ต.โพธิ์ทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด  ทิศตะวันตก ติดกับ ต.โพธิ์ศรี อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด.
         นายเสฏฐพันธ์ เวียงภักดิ์ นายกอบต.นาอุดม พร้อมฝ่ายบริหาร  และสมาชิก สอ.บต. นายสินสมุทร  พลเยี่ยม กำนันตำบลนาอุดม พร้อมผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อสม.เป็นตัวแทนรับมอบเพื่อดำเนินการแจกจ่ายไปยังประชาชนตำบลนาอุดมต่อไป และกล่าวขขอบคุณที่ทาง อบจ.ที่เล็งเห็นความสำคัญ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังกล่าว.
/////
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ