วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2562

กระทรวงมหาดไทย ออกประกาศ เจ้าหนี้ ทวงเงิน ลูกหนี้ได้ ไม่เกิน 1 ครั้ง ต่อ 1 วัน


กระทรวงมหาดไทย ออกประกาศคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ เรื่อง จำนวนครั้งในการติดต่อทวงถามหนี้ โดยให้ผู้ทวงถามหนี้ติดต่อลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ได้ทราบ การทวงถามหนี้ ไม่เกินหนึ่งครั้งต่อหนึ่งวัน  เพื่อให้การทวงถามหนี้เป็นแนวทางเดียวกัน กรมการปกครองจึงได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติตามที่คณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ได้ให้แนวทางไว้

โดย ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับเฉพาะบุคคล ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 บัญญัติไว้ ดังนี้ “ผู้ทวงถามหนี้” หมายความว่า เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้ให้สินเชื่อ ผู้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้จัดให้มีการเล่นการพนันเป็นปกติธุระตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน และเจ้าหนี้อื่นซึ่งมีสิทธิรับชำระหนี้อันเกิดจากการกระทำที่เป็นทางการค้าปกติธุระของเจ้าหนี้ ทั้งนี้ ไม่ว่าหนี้ดังกล่าวจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ก็ตาม และให้หมายความรวมถึง ผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าหนี้ดังกล่าว ผู้รับมอบอำนาจช่วงในการทวงถามหนี้ ผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ และผู้รับมอบอำนาจจากผู้ประกอบธุรกิจทวงถามหนี้ด้วย


การติดต่อตามประกาศนี้คือลูกหนี้ต้องรับทราบการทวงถามหนี้ด้วย.โดยอ้างอิงตามความหมายของ.“ติดต่อ”.ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 หมายถึง การพูดจาเพื่อทำความตกลง, การสื่อสาร   ดังนั้น หากผู้ทวงถามหนี้ได้มีการทวงถามหนี้และลูกหนี้ได้ทราบการทวงถามหนี้แล้วผู้ทวงถามหนี้จะไม่สามารถสอบถามถึงการชำระหนี้กับลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ในวันเดียวกันนั้นได้อีก เช่น การถามว่า.“ชำระหนี้แล้วหรือยัง”.“อย่าลืมชำระหนี้นะ”  การสอบถามบุคคลดังกล่าวอีกครั้งในทำนองเช่นว่านี้ถือเป็นการทวงถามหนี้เกินกว่าหนึ่งครั้งต่อหนึ่งวันตามประกาศดังกล่าว 

กรณีการทวงถามหนี้ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ลูกหนี้อ่านข้อความการทวงถามหนี้แต่ไม่ตอบ  ถือว่าเป็นการติดต่อและลูกหนี้ได้รับทราบการทวงถามหนี้แล้ว แม้ว่าจะไม่มีการตอบข้อความนั้นภายหลังจากที่ได้อ่านก็ตาม

กรณีการทวงถามหนี้ผ่านทางโทรศัพท์ ถือว่าเป็นการติดต่อทวงถามหนี้ตามประกาศ  โดยระบุว่า   ผู้ทวงถามหนี้ได้มีการโทรศัพท์ไปยังลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ และบุคคลดังกล่าวรับสายโทรศัพท์แล้วผู้ทวงถามหนี้ได้มีการพูดคุยในสาระสำคัญโดยแสดงเจตนาในการติดต่อเพื่อการทวงถามหนี้

ส่วน กรณีที่ไม่ถือว่าเป็นการติดต่อทวงถามหนี้ตามประกาศ    ได้แก่  ผู้ทวงถามหนี้ได้มีการโทรศัพท์ไปยังลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ แต่บุคคลดังกล่าวยังไม่รับสายโทรศัพท์
 
ผู้ทวงถามหนี้ได้มีการโทรศัพท์ไปยังลูกหนี้หรือบุคคลซึ่งลูกหนี้ได้ระบุไว้เพื่อการทวงถามหนี้ และบุคคลดังกล่าวได้รับสายแล้วแต่กดวางสายโทรศัพท์ไปเสียก่อนได้มีการพูดคุยในสาระสำคัญ

                               -/////////////////////-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น