ร้อยเอ็ด พบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นรายแรกของจังหวัดร้อยเอ็ด

ร้อยเอ็ด พบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นรายแรกของจังหวัดร้อยเอ็ด
จังหวัดร้อยเอ็ด พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 จำนวน 1 ราย เป็นชายซึ่งเป็นรายแรกของจังหวัดร้อยเอ็ด หลังเดินทางกลับจากเวทีมวยกรุงเทพฯ ภายหลังให้ความร่วมมือพิสูจน์เลือดพบมีเชื้อ ทีมแพทย์เริ่มกระบวนการรักษา ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแถลงผลอย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายวันนี้
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 เวลา 15.30น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามเฝ้าระวังโรคไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ มีรายงานยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขว่า ขณะนี้ที่จังหวัดร้อยเอ็ด พบผู้ติดเชื้อเป็นชายชาวอำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด อายุ 36 ปี ติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน่าหรือโควิด-19 รายแรกของจังหวัดร้อยเอ็ด
รายงานแจ้งว่า ชายคนดังกล่าวได้ให้ความร่วมมือในการกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ ตั้งแต่ 3 วันที่ผ่านมาหลังจากเดินทางกลับจากสนามมวยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ด้วยเป็นกลุ่มเสี่ยงทันทีที่พบตัวทีมแพทย์ได้ทำการกักตัวและเจาะเลือดปรากฏผลมีเชื้อโรคโควิด-19 แต่ร่างกายยังแข็งแรง
ทั้งนี้ ทีมเฝ้าป้องกันโรคระบาดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เร่งทำการสืบสวนโรค โดยเฉพาะการเดินทางไปตามจุดต่างๆในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อทำการฆ่าเชื้อและทำการกักตัวประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยยังไม่ระบุชัดเจนว่าชายคนดังกล่าวได้เดินทางไปยังที่ใดบ้าง
การดำเนินงานในขณะนี้ หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อ ได้ดำเนินการค้นหาและติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ามารับการตรวจร่างกาย และเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อโคโรนาไวรัส ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 7 ขอนแก่น จำนวน 37 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อทุกราย

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าในช่วงบ่ายวันนี้ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ในฐานะประธานศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด-19 จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เรียกประชุมคณะกรรมการป้องกันโรคโควิด-19 และสื่อมวลชน ณ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อทำการประชาสัมพันธ์พื้นที่จุดเสี่ยงในการป้องกันโรค ตลอดจนแนวทางการป้องกัน ทั้งนี้ทีมแพทย์ยังได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
โดยผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่มีการระบาดของโรคให้กักตัวเองที่บ้านให้ครบ 14 วัน แยกของใช้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อให้คนในครอบครัว อยู่ห่างกันอย่างน้อย 2 เมตรรวมทั้งงดกิจกรรมทางสังคม คำแนะนำสำหรับประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงโรค ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวง
สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่มีการระบาดของโรคขอให้กักกันตัวเองที่บ้านให้ครบ 14 วัน แยกของใช้ส่วนตัว สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อให้คนในครอบครัว งดกิจกรรมทางสังคม หากมีไข้ ร่วมกับอาการ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบให้รีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติการเดินทาง ส่วนประชาชนทั่วไปขอให้หมั่นล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย ไม่ไปในที่มีคนแออัด หากมีไข้ร่วมกับอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง/ประวัติความเสี่ยง เพื่อเข้าสู่ระบบการตรวจวินิจฉัย การรักษา และเฝ้าระวังควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจายในวงกว้าง
//////////////////////////////
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
สุทธิชัย อุปปะ(เต็ม ข่าวไทยนิวส์)
รายงาน