วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

เปิดคำให้การชั้นสอบสวน ของนายฝน คดีน้องต้าแง เด็กเมียนม่าร์ หายในไร่อ้อย


เปิดคำให้การชั้นสอบสวน ของนายฝน คดีน้องต้าแง เด็กเมียนม่าร์ หายในไร่อ้อย ตำรวจไทยเก่งที่สุดในโลก..!

       ยังจำได้ไหมครับ...!

        คดีเด็กชายซูลุยผิว หรือน้องต้าแง เด็กชายชาวเมียนมาร์ หายไปในบริเวณไร่อ้อย หมู่ที่ 9 .สระพังลาน .อู่ทอง.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 จนมีหน่วยงานต่างๆ ทั้งทหาร ตำรวจอาสาสมัคร และชาวบ้าน ช่วยกันค้นหาอยู่ 8 วัน จนเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 ได้พบศพเด็กชายซูลุยผิว ในไร่อ้อย

       ในวันที่ 29 ธันวาคม 2561 พลตำรวจตรีคมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสุพรรณบุรี กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สระยายโสม  ได้แถลงข่าวว่า นายทองขวัญหรือฝน ฉิมมา เป็นคนสติไม่ดี อายุ 32 ปี มีพัฒนาการทางสมองเท่ากับเด็ก 5 ขวบ เป็นคนพาน้องต้าแงไปตาย และได้มีการแจ้งข้อหา พรากผู้เยาว์นายฝน โดยมีแพทย์ด้านจิตวิทยา ให้ความเห็นว่า คำให้การของนายฝน น่าเชื่อว่าเป็นจริง  น่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องต้าแง จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ สร้างผลงานดีเด่นให้กับชุดสืบสวนชุดนี้อย่างน่ายกย่อง และน่าชมเชย 

      แต่มีทนายความอยู่คนหนึ่งไม่เชื่อคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว...น่าจะเป็นการจัดฉาก...



      จึงได้สืบหาความจริง ...โดยทนายความคนนั้นคือ ผมทนายความอนันต์ชัย ไชยเดช จนพบความจริง และได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้การจังหวัดสุพรรณบุรี กับชุดสืบสวนทั้ง 12 นายรวมทั้ง แพทย์ผู้ให้ความเห็นด้วย ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ปปช

       ในส่วนคดีแพ่ง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2562 นายทองขวัญหรือนายฝน ฉิมมาฯ ได้ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (Human Dignity)  ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 มาตรา 4 ,มาตรา 26  และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 420 จำนวน 2 ล้านบาท โดยขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี  คดีหมายเลขดำที่ 1284/2562 วันนี้ ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี มีคำสั่ง ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล 40,000 บาทเศษ ให้นายฝน ผมขอกราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงที่เมตตานายฝน  





       ในคดีดังกล่าว ผมได้ขอหมายเรียกสำนวนการสอบสวนทั้งหมดจากผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสระยายโสม มาเป็นพยานหลักฐาน...!

        ผมอ่านสำนวนการสอบสวนทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะนายแพทย์ผู้ตรวจนายฝนก่อนตกเป็นผู้ต้องหา ท่านให้การไว้อย่างชัดเจนว่า  คำพูดของนายฝนเชื่อถือได้น้อย ควรส่งไปยังสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อวินิจฉัยโรคก่อน และแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์วินิจฉัยว่า คำพูดของนายฝนเชื่อถือไม่ได้ ต่อสู้คดีไม่ได้ และเมื่อมาดูการสอบปากคำ ของนายฝนหรือนายทองขวัญฯ แล้ว ปรากฏว่า พนักงานสอบสวนชุดดังกล่าวกับสอบปากคำนายฝน รู้เรื่องทุกอย่าง ชัดเจน 

        ตำรวจไทย เก่งที่สุดในโลก สอบสวนคนปัญญาอ่อน รู้เรื่อง น่าทึ่งจริงๆครับ...!

        หลังจากนั้น มีการสรุปสำนวนว่า นายฝนเป็นผู้กระทำความผิดจริง แต่ขาดเจตนา และสั่งไม่ฟ้องไปยังพนักงานอัยการจังหวัดสุพรรณบุรี 

        พนักงานอัยการจังหวัดสุพรรณบุรี ไม่เอาด้วยกับพนักงานสอบสวน ส่งสำนวนคืน เพราะการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 14

       ผมเลยขออนุญาต เอาคำให้การของแพทย์ทั้ง 2 แห่งคำให้การในฝนความเห็นของพนักงานอัยการจังหวัดสุพรรณบุรี มาให้ประชาชนพิจารณาดูกันเอา 

       เพราะเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ 

     และขอความกรุณาแสดงความเห็นวิจารณ์โดยสุภาพนะครับ ให้เกียรติตำรวจที่ดีหน่อย...






       ผมขออภัยแพทย์ ที่ให้ความเห็นว่า คำให้การของฝนเชื่อถือได้น้อย แต่ตำรวจ แถลงข่าวว่า แพทย์บอกว่า  เป็นจริงเชื่อถือได้ จนผมเข้าใจผิด และใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพกับแพทย์ไปหลายคำ และแจ้งความดำเนินคดีกับท่านด้วยขออภัยมา ณโอกาสนี้ด้วย 

       ผมจะลุยตำรวจทั้ง 12 นายต่อ ผมมีอาวุธอยู่ในมือครบถ้วนแล้ว คดีติดมือผมรับรองรอดยากส์ ...!
       โปรดติดตามชม ตอนต่อไป 

                        ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช
                          (ทนายกระดูกเหล็ก)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น