วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2563

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมคณะเดินทางมาติดตามผลคดีฆ่าผู้อื่น ที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด


ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมคณะเดินทางมาติดตามผลคดีฆ่าผู้อื่น ที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด

วันที่ 6 มกราคม 2563 เวลา 13.30 น. พล.ต.ท. เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.ณภพ ชุณหกรรณ์ รอง ผบก.ศพฐ. 4 และคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามผลคดีฆ่าผู้อื่น ที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด โดยมี พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด และ พ.ต.อ.ดร.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับร่วมประชุมรายงานเหตุการณ์ ณ ห้องประชุมชั้น 2. สภ.เมืองร้อยเอ็ด


สืบเนื่องมาจาก สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 63 เวลาประมาณ 11.40 น.มีคนถูกยิงด้วยอาวุธปืน ริมถนนบายพาสเลี่ยงเมือง บริเวณกลางทุ่งนา บ.เหล่าใหญ่ ต.ดงลาน อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จึงออกตรวจสอบพร้อม หน่วยกู้ภัยนครสาเกต หน่วยกู้ชีพพีร์คำทอน โรงพยาบาลร้อยเอ็ด


จุดเกิดเหตุเป็นถนนกลางทุ่งนาริมถนนบายพาสเลี่ยงเมือง พบรถยนต์กระบะ ฟอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 7873 ร้อยเอ็ด จอดอยู่บนถนน พบรอยถูกยิงคล้ายกระสุนปืนทะลุกระจกจำนวน 2 จุด ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บคือนาย อภิชาติ พาโคกทม อายุ 45 ปี อยู่ ต.ดงลาน อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นอนไม่รู้สึกตัว พบบาดแผลคล้ายถูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณใบหน้าและหน้าอก เป็นแผลมากกว่า 10 จุด เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือ CPR ก่อนเร่งเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด-ธนบุรี แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา


จากการสอบถามพยานเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งปมขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องที่ดินที่อยู่ติดกัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้มาขุดสระน้ำติดกับที่ดินของผู้ตาย โดยล่าสุดในช่วงสาย 4 ม.ค. 2563 ผู้ตายได้ขับรถกระบะมาพร้อมกับแม่และเมียของผู้ตาย รวม 3 คน มาถึงจุดเกิดเหตุ ก่อนมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุอย่างรุนแรง ก่อนจะถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว ทราบชื่อผู้ก่อเหตุภายหลังคือ พ.ต.ท. สุรเดช อัฐเสนา รอง ผกก.ปราบปราม สภ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด


จากการสอบสวน พ.ต.ท.สุรเดช (ผู้ก่อเหตุ) ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนยิงนายอภิชาต จนเสียชีวิตจริง โดยสาเหตุเกิดจากปมขัดแย้งจากกรณีพิพาทเรื่องที่ดิน ซึ่งได้ขุดที่ดินเพื่อเป็นบ่อเลี้ยงปลาติดกับที่ดินของผู้ตาย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนพาพรรคพวกมาจับปลาในสระ ก็จะถูกผู้ตายข่มขู่ว่าห้ามจับปลา เพราะผู้ตายอ้างว่าเป็นคนให้อาหารปลาอยู่เป็นประจำ


จนกระทั้งวันที่ 4 ม.ค. 63 ตนได้ให้ชาวบ้านมาจับปลาในสระของตน โดยขณะที่จะลงหาปลา ผู้ตายได้ขับรถมาพร้อมกับแม่และเมียของผู้ตาย ถึงจุดเกิดเหตุ รถได้พุ่งตรงเข้าหาตน ก่อนจะมีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างรุนแรง ผู้ตายได้ก้มหยิบของบางอย่างในรถ ตนจึงได้คว้าปืนในรถยิงสวนเพื่อเป็นการป้องกันตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมกับพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ไปสอบปากคำเพิ่มเติม


เบื้องต้น พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อมชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรอยกระสุนปืนบริเวณกระจกรถผู้ตาย พบปลอกกระสุนชนิดลูกซอง จำนวน 1 ปลอกตกอยู่ข้างรถผู้ตายฝั่งคนขับ และพบของกลางเป็นปืนยาวแบบลูกซอง จำนวน 1 กระบอก พบมีกระสุนในรังเพลิงจำนวน 3 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนจะควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปยัง สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินการตามขั้นของกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 หลังจากฟังรายงานเสร็จสิ้นแล้ว ได้แถลงข่าวและตอบคำถามสื่อมวลชนพร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาและจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้นได้ลงไปตรวจสอบรถยนต์ที่ถูกยิงและเดินทางกลับในเวลาต่อมา

สุทธิชัย อุปปะ(เต็ม บก.ข่าวไทยนิวส์)  ภาพ/ข่าว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น